วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” เนื้อ ฆ้องก้องดังกังวาน

฿800.00

ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุย จ.ลำพูน

คำอธิบาย

ระเบิดพลัง …อัดพุทธคุณ ปลุก วัวธนู “เจ้าขุนคลัง”

ลูกสะกด ลานคลั่งรัก “หมื่นน้ำมันพันคาถา”

หลวงปู่ ครูบา นะ (ครูบา นะเศรษฐี) อายุ 98 ปี ดอยอีฮุย  ลำพูน

 ถอดจิตบิณฑบาต เมืองสารภี  ผู้เข้านิโรจสมาบัติสมาบัติกลางขุนเขา สืบวิชาต้นบุญล้านนา  ผู้มีกระแสจิตดวงใจใสเป็นแก้วประกายพรึก สว่างทั่วดอยอีฮุย   พระผู้ล่วงรู้อดีต และ อนาคต พระที่หลวงปู่เรือง เขาสามยอด บอกให้คนไปกราบตั่งแต่ปี 2547

 

หลวงปู่ ครูบานะ ชนวํโส หรือ “หลวงปู่ ครูบา นะเศรษฐี”

หลวงปู่ ครูบานะ ปัจจุบันท่านอายุ 98ปี เป็นน้องชายแท้ของหลวงปู่เณรสุใจ ผู้ทรงอภินิหาริย์ บวชห่มผ้ากาสาวพัตร ปฏิบัติตามแนวคำสั่งคำสอนของครูบาศรีวิชัย องค์ต้นบุญ  ตั่งแต่สมัย หลวงปู่ครูบานะ บวชเป็นเณร พร้อมกับ หลวงปู่เณรใจ  หลวงปู่ครูบา นะ มาปฏิบัติธรรมจริงจัง กับ ครูบาขาวปี  เรียกครูบาขาวปี ว่า “ ครูบาพ่อ ” ปัจจุบันท่านก็นอนเฝ้าอนุสาวรีย์ ครูบาขาวปีที่ดอยอีฮุย

หลายครั้ง ที่มีคนจากภายนอกไปกราบ หลวงปู่ ครูบานะ แล้วไม่เห็นตัวท่านนานถึง 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง ด้วยอำนาจญาณสมาบัติที่ท่านได้กำหนดจิต เข้านิโรจกรรม เพื่อรักษากายวาจาใจแพร่บุญกุศลราศี ตัดกรรม ห้ามเวรให้ศิษย์

 

ครูบานะ…อยู่ทุ่งหัวช้าง ถอดจิต เดินบิณฑบาตที่ เมืองสารภี

ครั้ง…ครูบามาอยู่ดอยอีฮุยใหม่ ตรงนี้เป็นด่านยามของครูบาขาวปี มาก่อน ตอนเช้ามืดครูบานั่งสมาธิเข้านิโรจกรรม ประจวบกับในเวลาเดียวกัน  มีทั้งคนเห็น และ คนได้ใส่บาตร ครูบานะที่เมือง สารภี  สืบเสาะเจาะลึกว่า พระแก่ๆ ใส่แว่นตาหนาๆ นี้อยู่ที่ใด หาให้ทั่ว อำเภอสารภีก็ไม่มี  หาทั่วเชียงใหม่ ก็ไม่พบ  ปรากฏว่า พระรูปนี้อยู่ที่ทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน ระยะทางไกลเกือบ 200 กิโล ครูบาไปได้อย่างไร และ ยังมีศรัทธาญาติโยมเห็นครูบาไปปรากฏตัวหลายถิ่นหลายที่  คณะศรัทธาจึงมาช่วยสร้างศาลเล็กๆถวายท่าน นี่เป็นเรื่องนอกเหตุ เหนือผล  อดคิดไม่ได้ว่า นี่เป็นปฎิปทาพระอริยเจ้า หลวงปู่ครูบานะเป็นพระอริยเจ้า หรือ  ไฉน ?

 

 

หลวงปู่เรือง ให้มากราบ

สมัยหนึ่ง หลวงปู่เรือง ถ้ำพระอรหันต์ เขาสามยอด  มีศิษย์จากที่ต่างๆขึ้นเขามากราบท่าน รวมทั้งศิษย์จาก จังหวัดลำปาง  กราบท่านครั้งแรก ครั้งที่สอง ท่านมิได้พูดอะไร ต่อมากราบท่านครั้งที่ สาม  ท่านถามว่ามาจากที่ใดกัน  ศิษย์ก็ตอบว่า มาจาก ลำพูน ท่านก็อมยิ้มน้อยๆ  และ บอกว่า กว่าจะเดินทางมาที่นี่มันไกล  ให้ไปกราบพระนะก็ได้ เหมือนกับมากราบฉันแหละ “กราบพระนะ”  ลูกศิษย์กลุ่มนั้นก็ไม่ได้เอ๊ะใจ  เพราะสมัยนั้นไม่มีใครรู้จัก “พระนะ”  หรือ ครูบานะ”  เมื่อเดินทางกลับจังหวัดลำพูนแล้ว  วันหนึ่ง ลูกศิษย์คนเดิม เจอ ครูบานะโดยบังเอิญ ครูบา  ถามถึงหลวงปู่เรือง  เขาจึงนึกได้ ว่า หลวงปู่เรืองเคย บอกว่า ให้ไปกราบพระนะ

 

รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เข้าฝันให้คนมาช่วย

กลางคืน คนในหมู่บ้านที่เป็นชาวกะเหรี่ยงฝันว่า “หลวงปู่ ครูบานะ” ท่านมาเรียกให้ไปวัด   ตอนเช้า ต่างคนก็ต่างมา และเล่าความฝันให้กันฟังว่า ครูบาตามให้มาในความฝัน ซึ่งตรงกันทุกคน  พอไปถึงมีรถจากกรุงเทพขึ้นดอยมาหาท่านตอนกลางคืนจอดเสียอยู่  ครูบาเลยบอกคนที่มาว่า “ให้ช่วยเขาหน่อยนะ เมื่อคืนอาสาไปตามแล้ว” แสดงถึงอำนาจจิตของครูบาที่สามารถส่งถึงคนในหมู่บ้าน หรือ ตามคนที่ต้องการให้มา จะเป็นสิบเป็นร้อยกระแสจิตของครูบาก็ครอบคลุมถึงทั้งหมด  ด้วยอำนาจกระแสจิตของหลวงปู่ครูบานะ มีคนได้ญาณ นั่งดู ต้องประหลาดใจที่กระแสจิต รวมทั้งดวงใจ หลวงปู่ครูบานะ เป็นแก้วทั้งดวง และมีรัศมีครอบคลุมทั้งดอย

 

วัวธนู “ เจ้าขุนคลัง ”  

วัวธนู ตำรับดั่งเดิม ขลัง เก่ง ที่สุด ต้อง หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ต่างเรียนมาจากเมืองเหนือ  หลวงปู่ครูบานะ อยู่ในป่าเขาตลอด  ครูของท่านเคยหยิบดินเชิงตะกอนมาปั้นเสก โยนไว้ทิศทั้ง ๔ กลางคืนเมื่อทำสมาธิแล้ว  มองไปเห็น วัวตาแดงสู้แสงไฟ  พอสายๆ ตามไปดูตรงที่เห็นตาไฟของวัวธนู  เห็นลอยเท้า วัวธนูเดินย่ำดิน สังเกตว่าเป็นลอยเท้าบางๆ ไม่จมไปในดิน บางลอยทับบนใบไม้เป็นรูปเท้าวัวเล็กๆ น่าประหลาดแท้ ข้างๆ จะเห็นกองผลหมาก รากไม้ หล่นกระจัดกระจาย   ครูท่านบอกว่า “วัวฮื้อมาถวายเปิ่ล”

วัวธนู ตำรานี้ ท่านว่าเป็นเทวดาแปลง มีหน้าที่ช่วยคุ้มกันไล่ศัตรู  ข่มปราบอาถรรพ์ ยิ่งกว่านั้น ช่วยยันดวงตกดวงชะตาขาด ดวงชะตาไม่ดี วัวธนูตำรับนี้ ยังช่วยหาทรัพย์หาสิน  หาอาหารการกินมามอบให้อย่างบริสุทธิ์  พูดง่ายว่า เรียกเงิน เรียกคำ (ทองคำ) มาให้ได้

โบราณกาลจึงให้ชื่อว่า “วัวธนู  เจ้าขุนคลัง”    แปลว่า วัวธนูเจ้าทรัพย์ เจ้าสมบัติ วัวศุภราชเป็นราชาของวัวธนูผู้ครองครองแก้วสารพัดนึกเหนือโลกอุดร ๔ มุมเมือง

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง”  หล่อจากยอดอาถรรพ์วัตถุ  ๗ อย่าง

เหล็กตรึงโบสถ์ ๑  ตะปูตรึงโลง ๑ เหล็กยอดเจดีย์ ๑  ตรียอดนพสูญ๑ ทองขวานฟ้า๑ เหล็กผลิกผี๑ เงินบ้านพญา ๑  เมื่อหล่อแล้ว ตั้งเครื่องบัดพลีบวงสรวง 

เทพยดาเจ้า เริงรมย์ ปู่เจ้าสมิงพราย ปู่เจ้ากำแหง ปู่เจ้าเขาเขียว อัญเชิญพระอิศวรมาเป็นตาซ้าย  อัญเชิญพระอาทิตย์มาเป็นตาขวา อัญเชิญพระนารายณ์มาเป็นขุนเขาโหนกกลางตัว อัญเชิญพระอินทร์เข้ามาเป็นหาง อัญเชิญพระพุทธคีเนตรมาสถิตที่สีข้างซ้าย อัญเชิญพระพุทธคีนายมาสถิตที่สีข้างขวา เชิญพระจตุโลกบาลทั้ง๔มาประทับสี่เท้า  อัญเชิญเจ้าบาดาล เจ้าอัคนี แม่พระธรณี แม่พระเพลิง แม่พระพาย มาบรรจุเป็นตับ ไต ไส้ พุง อัญเชิญพระพรหมมาเป็นขวัญกลางกระหม่อม

เกิดฤทธาอานุภาพ  วัวธนู  “เจ้าขุนคลัง” เทพสถิต เทวดาอุ้มสม อารักษ์เข้าดลใจ มีจิตมีใจ ปลุกให้มีอำนาจ ราชศักดิ์ วัวอิทธิฤทฺธิ์เหนือขุนเขาไกรราช

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” ของหลวงปู่ครูบานะ ท่านสร้างเป็นรุ่นแรก พลิกตำรา วัวธนูที่เหนือกว่า วัววิเศษใดๆ เพราะวัวธนู ของท่านนี้ เกิดจากอำนาจเทวดาแปลงกายมาเป็นวัวพยนต์ ลึกลับด้วยพลังที่นอกเหตุเหนือผล

มีคำถามว่า “ใช้วัวธนู เจ้าขุนคลังของครูบานะแล้วดีอย่างไร ” เรื่องนี้ตอบว่า ก็ไม่ดีอย่างไร จะให้เปลี่ยนฟ้า กลับดินก็หามิได้  แต่ มีคำกล่าวว่า  “วัวธนู เจ้าขุนคลังอยู่บ้านใครแล้วจะรวย…”  อำนาจของวัวโคศุภราช โคพระอิศวร ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พิธีเริ่มต้นที่กษัตริย์ทรงพลิกดินให้เป็นโภคพลาหารให้ได้ข้าวกิน อิ่มอุดม  ต้องใช้ พระโคศุภราช เป็นปฐมฉันใด วัวธนู “เจ้าขุนคลัง “ นี้ก็ฉันนั้น จะขุดทรัพย์สินเงินทองโภคทรัพย์ เพิ่มเติมให้เจ้าของคนเลี้ยง ได้มาก ไม่รู้จักขาดแคลนแร้งแคน  ” วัวธนูขลังตำรับนี้ จึงขึ้นชื่อมาแต่โบราณว่า “วัวธนู เจ้าขุนคลังอยู่บ้านใครแล้วจะรวย…”

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” เรื่อง ล้างอาถรรพ์ ขับไล่สิ่งอัปมงคล  ป้องกันตัว ข่มปราบศัตรูหมู่มาร  ขับไล่วิญญาณร้าย  วางไว้ทางสามแพรงแก้ฮวงจุ้ย  ปรับทิศเปลี่ยนทางให้เสวยความสุข เสริมลาภ เรียกโชค เพิ่มเงินเพิ่มทอง ด้วยอำนาจของวัวธนู เจ้าขุนคลังมหาวิเศษก็ดีเลิศวิเศษนัก

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” สร้างปลุก ตามตำรา มหาสุทิน ที่คงไว้สำหรับ ท้าวพญามหาเศรษฐี ที่เลี้ยงรักษาใช้วัวนี้ได้ นี่จึงเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำให้คนทั่วไปได้ใช้ แต่ หลวงปู่ครูบานะ ท่านมีจิตอนุเคราะห์อยากช่วยลูกศิษย์ลูกหา ฝากสมบัติล้ำค่าไว้บนแผ่นดิน จึงเมตตาสร้างวัวธนู มหาวิเศษ “เจ้าขุนคลัง” ใครได้มีบุญเอาไปใช้เอาไปบูชา จะพาให้ สำเร็จทุกอย่าง สมปรารถนาทุกเรื่อง เพราะอำนาจของวัวเทวดา จะหอบทรัพย์หอบสมบัติให้เราเป็นเศรษฐีมหาศาลร่ำรวยในไม่นาน และ ที่สำคัญศัตรูหมู่มาร ผีสางนางไม้ คุณไสย กระทำย่ำยี กันคุณกันของ  วัวธนูเทวดานี้ก็เก่งสุดๆสกัดได้ราบคาบ   ที่สำคัญ ขอให้หมั่นไหว้พระสวดมนต์ ปลุกคาถาวัวธนูนี้บ่อย จะสำเร็จดังที่แจ้งมาเน้อ …

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง ” วัวธนูที่ปั้นได้สวย องอาจ มีอารมณ์ดุดัน คุกรุ่น ด้วยเวทย์มนต์คาถา และพลังวิชา  ฝากเชิงชั้นศิลปะแฝงด้วงอำนาจลึกลับซับซ้อน  มองอย่างพินิจพิจารณาแล้วจะรู้ว่า “วัวธนู เจ้าขุนคลังนี้มีชีวิต”

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” (มีโค้ดกำกับ )

เนื้อ สตางค์แดงผิวไฟ คราบปูนขี้เบ้า สร้าง 499 องค์

เนื้อ ฆ้องก้องดังกังวาน สร้าง 999 องค์

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” เนื้อสตางค์แดงผิวไฟคราบปูนขี้เบ้า

฿1,000.00

ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุย จ.ลำพูน

คำอธิบาย

ระเบิดพลัง …อัดพุทธคุณ ปลุก วัวธนู “เจ้าขุนคลัง”

ลูกสะกด ลานคลั่งรัก “หมื่นน้ำมันพันคาถา”

หลวงปู่ ครูบา นะ (ครูบา นะเศรษฐี) อายุ 98 ปี ดอยอีฮุย  ลำพูน

 ถอดจิตบิณฑบาต เมืองสารภี  ผู้เข้านิโรจสมาบัติสมาบัติกลางขุนเขา สืบวิชาต้นบุญล้านนา  ผู้มีกระแสจิตดวงใจใสเป็นแก้วประกายพรึก สว่างทั่วดอยอีฮุย   พระผู้ล่วงรู้อดีต และ อนาคต พระที่หลวงปู่เรือง เขาสามยอด บอกให้คนไปกราบตั่งแต่ปี 2547

 

หลวงปู่ ครูบานะ ชนวํโส หรือ “หลวงปู่ ครูบา นะเศรษฐี”

หลวงปู่ ครูบานะ ปัจจุบันท่านอายุ 98ปี เป็นน้องชายแท้ของหลวงปู่เณรสุใจ ผู้ทรงอภินิหาริย์ บวชห่มผ้ากาสาวพัตร ปฏิบัติตามแนวคำสั่งคำสอนของครูบาศรีวิชัย องค์ต้นบุญ  ตั่งแต่สมัย หลวงปู่ครูบานะ บวชเป็นเณร พร้อมกับ หลวงปู่เณรใจ  หลวงปู่ครูบา นะ มาปฏิบัติธรรมจริงจัง กับ ครูบาขาวปี  เรียกครูบาขาวปี ว่า “ ครูบาพ่อ ” ปัจจุบันท่านก็นอนเฝ้าอนุสาวรีย์ ครูบาขาวปีที่ดอยอีฮุย

หลายครั้ง ที่มีคนจากภายนอกไปกราบ หลวงปู่ ครูบานะ แล้วไม่เห็นตัวท่านนานถึง 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง ด้วยอำนาจญาณสมาบัติที่ท่านได้กำหนดจิต เข้านิโรจกรรม เพื่อรักษากายวาจาใจแพร่บุญกุศลราศี ตัดกรรม ห้ามเวรให้ศิษย์

 

ครูบานะ…อยู่ทุ่งหัวช้าง ถอดจิต เดินบิณฑบาตที่ เมืองสารภี

ครั้ง…ครูบามาอยู่ดอยอีฮุยใหม่ ตรงนี้เป็นด่านยามของครูบาขาวปี มาก่อน ตอนเช้ามืดครูบานั่งสมาธิเข้านิโรจกรรม ประจวบกับในเวลาเดียวกัน  มีทั้งคนเห็น และ คนได้ใส่บาตร ครูบานะที่เมือง สารภี  สืบเสาะเจาะลึกว่า พระแก่ๆ ใส่แว่นตาหนาๆ นี้อยู่ที่ใด หาให้ทั่ว อำเภอสารภีก็ไม่มี  หาทั่วเชียงใหม่ ก็ไม่พบ  ปรากฏว่า พระรูปนี้อยู่ที่ทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน ระยะทางไกลเกือบ 200 กิโล ครูบาไปได้อย่างไร และ ยังมีศรัทธาญาติโยมเห็นครูบาไปปรากฏตัวหลายถิ่นหลายที่  คณะศรัทธาจึงมาช่วยสร้างศาลเล็กๆถวายท่าน นี่เป็นเรื่องนอกเหตุ เหนือผล  อดคิดไม่ได้ว่า นี่เป็นปฎิปทาพระอริยเจ้า หลวงปู่ครูบานะเป็นพระอริยเจ้า หรือ  ไฉน ?

 

 

หลวงปู่เรือง ให้มากราบ

สมัยหนึ่ง หลวงปู่เรือง ถ้ำพระอรหันต์ เขาสามยอด  มีศิษย์จากที่ต่างๆขึ้นเขามากราบท่าน รวมทั้งศิษย์จาก จังหวัดลำปาง  กราบท่านครั้งแรก ครั้งที่สอง ท่านมิได้พูดอะไร ต่อมากราบท่านครั้งที่ สาม  ท่านถามว่ามาจากที่ใดกัน  ศิษย์ก็ตอบว่า มาจาก ลำพูน ท่านก็อมยิ้มน้อยๆ  และ บอกว่า กว่าจะเดินทางมาที่นี่มันไกล  ให้ไปกราบพระนะก็ได้ เหมือนกับมากราบฉันแหละ “กราบพระนะ”  ลูกศิษย์กลุ่มนั้นก็ไม่ได้เอ๊ะใจ  เพราะสมัยนั้นไม่มีใครรู้จัก “พระนะ”  หรือ ครูบานะ”  เมื่อเดินทางกลับจังหวัดลำพูนแล้ว  วันหนึ่ง ลูกศิษย์คนเดิม เจอ ครูบานะโดยบังเอิญ ครูบา  ถามถึงหลวงปู่เรือง  เขาจึงนึกได้ ว่า หลวงปู่เรืองเคย บอกว่า ให้ไปกราบพระนะ

 

รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เข้าฝันให้คนมาช่วย

กลางคืน คนในหมู่บ้านที่เป็นชาวกะเหรี่ยงฝันว่า “หลวงปู่ ครูบานะ” ท่านมาเรียกให้ไปวัด   ตอนเช้า ต่างคนก็ต่างมา และเล่าความฝันให้กันฟังว่า ครูบาตามให้มาในความฝัน ซึ่งตรงกันทุกคน  พอไปถึงมีรถจากกรุงเทพขึ้นดอยมาหาท่านตอนกลางคืนจอดเสียอยู่  ครูบาเลยบอกคนที่มาว่า “ให้ช่วยเขาหน่อยนะ เมื่อคืนอาสาไปตามแล้ว” แสดงถึงอำนาจจิตของครูบาที่สามารถส่งถึงคนในหมู่บ้าน หรือ ตามคนที่ต้องการให้มา จะเป็นสิบเป็นร้อยกระแสจิตของครูบาก็ครอบคลุมถึงทั้งหมด  ด้วยอำนาจกระแสจิตของหลวงปู่ครูบานะ มีคนได้ญาณ นั่งดู ต้องประหลาดใจที่กระแสจิต รวมทั้งดวงใจ หลวงปู่ครูบานะ เป็นแก้วทั้งดวง และมีรัศมีครอบคลุมทั้งดอย

 

วัวธนู “ เจ้าขุนคลัง ”  

วัวธนู ตำรับดั่งเดิม ขลัง เก่ง ที่สุด ต้อง หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ต่างเรียนมาจากเมืองเหนือ  หลวงปู่ครูบานะ อยู่ในป่าเขาตลอด  ครูของท่านเคยหยิบดินเชิงตะกอนมาปั้นเสก โยนไว้ทิศทั้ง ๔ กลางคืนเมื่อทำสมาธิแล้ว  มองไปเห็น วัวตาแดงสู้แสงไฟ  พอสายๆ ตามไปดูตรงที่เห็นตาไฟของวัวธนู  เห็นลอยเท้า วัวธนูเดินย่ำดิน สังเกตว่าเป็นลอยเท้าบางๆ ไม่จมไปในดิน บางลอยทับบนใบไม้เป็นรูปเท้าวัวเล็กๆ น่าประหลาดแท้ ข้างๆ จะเห็นกองผลหมาก รากไม้ หล่นกระจัดกระจาย   ครูท่านบอกว่า “วัวฮื้อมาถวายเปิ่ล”

วัวธนู ตำรานี้ ท่านว่าเป็นเทวดาแปลง มีหน้าที่ช่วยคุ้มกันไล่ศัตรู  ข่มปราบอาถรรพ์ ยิ่งกว่านั้น ช่วยยันดวงตกดวงชะตาขาด ดวงชะตาไม่ดี วัวธนูตำรับนี้ ยังช่วยหาทรัพย์หาสิน  หาอาหารการกินมามอบให้อย่างบริสุทธิ์  พูดง่ายว่า เรียกเงิน เรียกคำ (ทองคำ) มาให้ได้

โบราณกาลจึงให้ชื่อว่า “วัวธนู  เจ้าขุนคลัง”    แปลว่า วัวธนูเจ้าทรัพย์ เจ้าสมบัติ วัวศุภราชเป็นราชาของวัวธนูผู้ครองครองแก้วสารพัดนึกเหนือโลกอุดร ๔ มุมเมือง

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง”  หล่อจากยอดอาถรรพ์วัตถุ  ๗ อย่าง

เหล็กตรึงโบสถ์ ๑  ตะปูตรึงโลง ๑ เหล็กยอดเจดีย์ ๑  ตรียอดนพสูญ๑ ทองขวานฟ้า๑ เหล็กผลิกผี๑ เงินบ้านพญา ๑  เมื่อหล่อแล้ว ตั้งเครื่องบัดพลีบวงสรวง 

เทพยดาเจ้า เริงรมย์ ปู่เจ้าสมิงพราย ปู่เจ้ากำแหง ปู่เจ้าเขาเขียว อัญเชิญพระอิศวรมาเป็นตาซ้าย  อัญเชิญพระอาทิตย์มาเป็นตาขวา อัญเชิญพระนารายณ์มาเป็นขุนเขาโหนกกลางตัว อัญเชิญพระอินทร์เข้ามาเป็นหาง อัญเชิญพระพุทธคีเนตรมาสถิตที่สีข้างซ้าย อัญเชิญพระพุทธคีนายมาสถิตที่สีข้างขวา เชิญพระจตุโลกบาลทั้ง๔มาประทับสี่เท้า  อัญเชิญเจ้าบาดาล เจ้าอัคนี แม่พระธรณี แม่พระเพลิง แม่พระพาย มาบรรจุเป็นตับ ไต ไส้ พุง อัญเชิญพระพรหมมาเป็นขวัญกลางกระหม่อม

เกิดฤทธาอานุภาพ  วัวธนู  “เจ้าขุนคลัง” เทพสถิต เทวดาอุ้มสม อารักษ์เข้าดลใจ มีจิตมีใจ ปลุกให้มีอำนาจ ราชศักดิ์ วัวอิทธิฤทฺธิ์เหนือขุนเขาไกรราช

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” ของหลวงปู่ครูบานะ ท่านสร้างเป็นรุ่นแรก พลิกตำรา วัวธนูที่เหนือกว่า วัววิเศษใดๆ เพราะวัวธนู ของท่านนี้ เกิดจากอำนาจเทวดาแปลงกายมาเป็นวัวพยนต์ ลึกลับด้วยพลังที่นอกเหตุเหนือผล

มีคำถามว่า “ใช้วัวธนู เจ้าขุนคลังของครูบานะแล้วดีอย่างไร ” เรื่องนี้ตอบว่า ก็ไม่ดีอย่างไร จะให้เปลี่ยนฟ้า กลับดินก็หามิได้  แต่ มีคำกล่าวว่า  “วัวธนู เจ้าขุนคลังอยู่บ้านใครแล้วจะรวย…”  อำนาจของวัวโคศุภราช โคพระอิศวร ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พิธีเริ่มต้นที่กษัตริย์ทรงพลิกดินให้เป็นโภคพลาหารให้ได้ข้าวกิน อิ่มอุดม  ต้องใช้ พระโคศุภราช เป็นปฐมฉันใด วัวธนู “เจ้าขุนคลัง “ นี้ก็ฉันนั้น จะขุดทรัพย์สินเงินทองโภคทรัพย์ เพิ่มเติมให้เจ้าของคนเลี้ยง ได้มาก ไม่รู้จักขาดแคลนแร้งแคน  ” วัวธนูขลังตำรับนี้ จึงขึ้นชื่อมาแต่โบราณว่า “วัวธนู เจ้าขุนคลังอยู่บ้านใครแล้วจะรวย…”

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” เรื่อง ล้างอาถรรพ์ ขับไล่สิ่งอัปมงคล  ป้องกันตัว ข่มปราบศัตรูหมู่มาร  ขับไล่วิญญาณร้าย  วางไว้ทางสามแพรงแก้ฮวงจุ้ย  ปรับทิศเปลี่ยนทางให้เสวยความสุข เสริมลาภ เรียกโชค เพิ่มเงินเพิ่มทอง ด้วยอำนาจของวัวธนู เจ้าขุนคลังมหาวิเศษก็ดีเลิศวิเศษนัก

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” สร้างปลุก ตามตำรา มหาสุทิน ที่คงไว้สำหรับ ท้าวพญามหาเศรษฐี ที่เลี้ยงรักษาใช้วัวนี้ได้ นี่จึงเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำให้คนทั่วไปได้ใช้ แต่ หลวงปู่ครูบานะ ท่านมีจิตอนุเคราะห์อยากช่วยลูกศิษย์ลูกหา ฝากสมบัติล้ำค่าไว้บนแผ่นดิน จึงเมตตาสร้างวัวธนู มหาวิเศษ “เจ้าขุนคลัง” ใครได้มีบุญเอาไปใช้เอาไปบูชา จะพาให้ สำเร็จทุกอย่าง สมปรารถนาทุกเรื่อง เพราะอำนาจของวัวเทวดา จะหอบทรัพย์หอบสมบัติให้เราเป็นเศรษฐีมหาศาลร่ำรวยในไม่นาน และ ที่สำคัญศัตรูหมู่มาร ผีสางนางไม้ คุณไสย กระทำย่ำยี กันคุณกันของ  วัวธนูเทวดานี้ก็เก่งสุดๆสกัดได้ราบคาบ   ที่สำคัญ ขอให้หมั่นไหว้พระสวดมนต์ ปลุกคาถาวัวธนูนี้บ่อย จะสำเร็จดังที่แจ้งมาเน้อ …

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง ” วัวธนูที่ปั้นได้สวย องอาจ มีอารมณ์ดุดัน คุกรุ่น ด้วยเวทย์มนต์คาถา และพลังวิชา  ฝากเชิงชั้นศิลปะแฝงด้วงอำนาจลึกลับซับซ้อน  มองอย่างพินิจพิจารณาแล้วจะรู้ว่า “วัวธนู เจ้าขุนคลังนี้มีชีวิต”

วัวธนู “เจ้าขุนคลัง” (มีโค้ดกำกับ )

เนื้อ สตางค์แดงผิวไฟ คราบปูนขี้เบ้า สร้าง 499 องค์

เนื้อ ฆ้องก้องดังกังวาน สร้าง 999 องค์

มีโค๊ทกำกำกับทุกองค์