ตะกรุด พระสีวลีเปิดบาตร – พระอุปคุตปลุกทรัพย์
ตำราล้านนาโยนก มีตะกรุดตำรับเก่า 1 ดอก ที่โด่งดังมาตั่งแต่สมัยพระเจ้ากาลวิละ เจ้าเมืองเชียงใหม่ คหบดี มหาเศรษฐี ผู้มีอันจะกิน ต้องพกใส่กล่อง มัดใส่ห่อ พกไว้ในปี๋บูชาไว้ติดตัว บางราย ห่อผ้าแดงมอบเป็นสมบัติสุดล้ำค่าให้ลูกหลาน ได้ร่ำ ได้รวยสืบต่ออายุเจ้าสัวจากรุ่นสู่รุ่น ตะกรุดขลังที่ว่านั้นชื่อ “ พระสีวลีเปิดบาตร – พระอุปคุตปลุกทรัพย์” ภาคเหนือ เรียกว่า “ตะกรุดพญาตอกคำ” ตะกรุดนี้ เป็นตะกรุดชั้นสูงที่พระอริยเจ้าต้องเข้าสมาบัติเสกเท่านั้น เพราะต้องอัญเชิญบารมีของพระอริยสงฆ์อรหันต์เจ้า ๒ องค์ประสิทธิในตะกรุด กล่าวคือ
พระสีวลีเถระผู้เป็นเลิศทางลาภ มหาศาล ทำพิธีเปิดบาตรพระสีวลีเพื่อให้ลาภน้อยลาภใหญ่หลั่งไหลมา๑) พระอุปคุตเถระ ผู้เป็นเลิศทางอิทธิฤทธิ์ ทำพิธีอุปคุตปลุกทรัพย์ให้ตื่นขยับเขยื่นเคลื่อนมาหาเรา ๑) เมื่อมหาลาภ กับ อิทธิฤทธิ์ มาเจอบรรจบกัน จึงเป็นเรื่องใหญ่ ลาภ ลาภะ จะมาด้วยฤทธิ์ อันหมายถึง
“รวยเร็ว รวยอัศจรรย์ รวยไม่หยุด รวยไม่ยั้ง ”
เงินทอง ความร่ำรวยจะไหลมาดังห่าฝนหรดี อันแปลว่า ฝนที่ตกที่ทิศทั้ง ๔ มารวมกันมากมายขนาดไหน ท่านยกย่องว่าลาภ ผล จะเกิดขึ้นมากมาเพียงนั้น
ตะกรุด ตะกั่วน้ำนม ลงจารมือทีละดอก ผูกยันต์เป็นหัวใจพระสีวลีเปิดบาตร โดยอนุโลม และ ผูกเป็น หัวใจพระอุปคุตปลุกทรัพย์ โดยปฏิโลม ตะกรุดนี้จึงเป็นยอดตะกรุด ถูกยกย่องให้เป็นตะกรุดชั้นสูงที่อัญเชิญบารมีของพระผู้ทีทั้งลาภ ทั้งฤทธิ์ มาผสมรวมกลมกลืนกัน
ทำให้มีผลตะกรุดดอกนี้เหนือกว่าตะกรุดใดๆที่เกี่ยวกับ เรียกเงินเรียกทอง เพิ่มความร่ำรวย เพิ่มความสำเร็จ ด้วยอำนาจแห่งตะกรุดนี้จึงเป็นของมีค่าขึ้นชื่อมาตั่งแต่สมัยล้านนา ถึง สมัย พระเจ้ากาลวิละ หรือเมื่อหลาย 100 ปี ผ่านมาแล้ว เจ้านายเมืองเหนือ ที่ร่ำรวย มีทรัพย์สมบัติมาก แก้วแหวนเงินทองท่วมทับทวี ล้วนมีตะกรุดดอกนี้ติดตัวบูชาอยู่
ท่านเจ้าอธิการสีมา วัดพระบาทผาผึ้ง ท่านรอบรู้ในวิชาทำตะกรุด “พระสีวลีเปิดบาตร-พระอุปคุต ปลุกทรัพย์ ” เป็นอย่างดี ท่านได้ทำพิธีเบิกฤกษ์เบิกชัย ลงตะกรุดตามตำรา อธิฐานอัญเชิญมหาฤทธิ์ของพระอรหันต์เจ้า จึงนำไป ถวาย ยอดเกจิล้านนา ที่ทรงภูมิรู้ภูมิธรรม เสก ถึง ๔ องค์ ลงฤทธิ์ให้อีกครั้ง
๑. ครูบาพรรณ วัดพระบาทห้วยต้ม
๒. ครูบาออ พระธาตุดอยจอมแวะ
๓. ครูบาวิ วิมาโร เวฬุวัน ถ้ำเมืองนะ
๔. ครูบานะ วัดดอยอีฮุ้ย
ตะกรุดนี้มีบ่งบอกในตำราว่า เมื่อครูบาเจ้า ทั้ง ๔ เสก ฝ้าร้องคำรามหนึ่ง) ฟ้าใสดังตาตั๊กแตนหาเมฆหมอกมาปิดบังไม่ได้ หนึ่ง) ถือว่า สำเร็จ ใครได้ตะกรุดนี้ไป ท่านให้ตั้งจิตอธิฐาน ด้วยคาถาบทท้าย ขอบารมีพระพุทธเจ้า และ พระสีวลี พระอุปคุต เป็นที่สุด ขอความร่ำรวย เงินทองทรัพย์สมบัติ จงเกิด เกิดขึ้นด้วยฤทธิ์ ณ บัดนี้ ตะกรุดนี้ จึงเป็นตะกรุดชั้นสูงของล้านนา ที่เป็นตำราเก่าแก่ และถูกปลุกให้ตื่นด้วยยอดเกจิอาจารย์ทรงอาคมภูมิรู้ภูมิธรรมชั้นสูงอีกครั้ง ฝากตำนานตะกรุดสำคัญไว้ในแผ่นดินถิ่นพายัพ
อุปเทย์ ตะกรุดนี้แล้ว เมื่อตั้งใจจริง ท่านจะสมใจ เงินทองจะไหลเข้ามาหา โชคลาภจะไหลเข้ามารุม คนเกื้อหนุนจะเดินเข้ามาล้อม จะทำให้ร่ำรวย เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี มีเงินทองกองเต็มกระเป๋า จะพัฒนาให้มีฐานะและอำนาจมากขึ้นไปอีก ก่อให้เกิดลาภผล ความมั่งมี อำนาจของ ๒ มหาอำนาจบารมีแห่งพระสีวลีผู้มีลาภผลมากมหาศาล แม้องค์พระพุทธเจ้ายังต้องยกย่องยอมรับ บารมีของพระอุปคุต ผู้มีอิทธิฤทธิ์ ปราบ ข่ม พยามาร แปลงกายลงในสะดือทะเล ตะกรุดที่อัญเชิญ ๒ พระอรหันต์ทีมีฤทธิ์นี้ จึงศักดิ์สิทธิ์ มีอำนาจเบ็ดเสร็จว่า “สำเร็จ เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยได้อย่างรวดเร็วรวยด้วย ฤทธิ์ ร่ำรวยด้วยอำนาจ” ตราบใดที่ท่านยังมีสัมมาทิฐิ มั่นคงในพระพุทธศาสนา ท่านจะหาความอดอยาก ยากจน ไม่ได้เลย
คาถา ตะกรุด นะโม 3 จบ
“นะชาลีติ ประสิทธิลาภา มหาอุปคุตโต จะมหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโมโจรา เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มะนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม ฯ
ตะกรุด ยาว3 นิ้ว ลงรักปิดทองแท้
สร้าง 1,999 ดอก